เมียยื่นฎีกาคดีกะเหรี่ยงบิลลี่หาย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 เม.ย. ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี นางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาพร้อมบุตรสาว นายพอละจีหรือบิลลี่ รักจงเจริญ ที่หายตัวไปในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานระหว่างเดินทางออกมาจากหมู่บ้านโป่งลึก -บางกรอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจานพร้อมน้ำผึ้งป่าจำนวนหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2557 พร้อมน.ส.ทิพย์วิมล ศิรินุพงศ์ เลขานุการ อนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ นำหนังสือยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 ที่พิพากษายกคำร้องในคดีการขอให้ปล่อยตัวนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ ที่ถูกควบคุมตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หลังศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมีหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ มีความขัดแย้งกับนายบิลลี่ในกรณีการเผาทำลาย ไล่รื้อ บ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย จึงอาจเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินคดี และนำไปสู่การควบคุมตัวนายบิลลี่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันอาจทำให้เกิดอันตรายต่อเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของนายบิลลี่
และการพิสูจน์ว่านายบิลลี่ ได้รับการปล่อยตัวไปแล้วหรือไม่นั้น โดยหลักการรับฟังพยานหลักฐาน ภาระการพิสูจน์ของฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในการควบคุมตัว ไม่ใช่ภาระการพิสูจน์ของญาติผู้ถูกควบคุมตัว และตุลาการจะต้องทำหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานให้ถึงที่สุดว่านายบิลลี่ได้รับการปล่อยตัวไปแล้วจริง เมื่อไม่ปรากฏหลักฐานบันทึกการจับ บันทึกของกลางและบันทึกการปล่อย จึงไม่อาจเชื่อได้ว่านายบิลลี่ ได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว และเชื่อได้ว่านายบิลลี่ ยังคงอยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่
หลังยื่นหนังสือเสร็จ นางสาวทิพย์วิมล ศิรินุพงศ์ เลขานุการ อนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า จากนี้ต้องรอลุ้นว่าศาลจะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้อง หากศาลรับคำร้องก็จะต้องรอคำตัดสินของศาลฎีกาต่อไป
Wed, 04/29/2015
Copyright © 2018. All rights reserved.