ความ หวัง…

“เมื่อ ดาวหนึ่งดวง ร่วงลงจากฟ้า จะมีดวงตาเกิดขึ้นมาบนโลกนี้แทน
เป็นเด็กผู้หญิง เป็นเด็กผู้ชาย ส่องแววประกาย เด็กมีความหมายเช่นดาว
พวกเราจะโต ไม่นานหรอกหนา เราจะอาสา เติบโตมาดูแลโลกแทน
ปก ป้องป่าไม้ ภูเขาแม่น้ำ ไม่มีสงคราม หากทำตามความฝันของเด็ก (พวกเรา)
ยังมีพรุ่งนี้ ย่อมมีความหวัง เด็กคือพลัง เป็นความหวังแห่งวัน
อย่าทำลายฝัน อย่าปิดกั้นไฟ เด็กมีหัวใจ ผู้ใหญ่ช่วยระวัง ”
นี่เป็นเสียงเพลงที่เด็กชนเผ่าอาข่า ชาวลาหู่ ชาวมอแกน และเด็กไทยพลัดถิ่นได้ประสานเสียงร้องออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริงเพื่อ เป็นการบอกความรู้สึกและความฝันของพวกเขาให้ทุกคนได้รับรู้ ผ่านบทเพลง ก่อนที่พวกเขาจะ ขอเข้าพบนายกและขอบคุณสื่อมวลชนต่างที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ทุกคนได้รับ รู้ถึงปัญหาของเด็กไร้สัญชาติ
พวก เขาได้มีโอกาสไปร่วมไหว้พระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราช เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี ต่อพระองค์แม้พวกเขาไม่มีสัญชาติไทยแต่จิตใต้สำนึกของพวกเขาแล้วเขาคือคนไทย คนไทยที่อยู่ใต้พระบารมีของในหลวงและพระราชวงศ์ทุกพระองค์ ตลอดระยะทางที่เราเดินทางกลับไปยังสนามหลวงเป็นที่ตื่นตาของคนแถวนั้นเพราะ เด็กบางคนแต่งชุดประจำเผ่า พวกเราต่างได้ยินเสียงของคนเหล่านั้น ว่า “ ดูๆกะเหรี่ยงลงมาจากบนดอย” “พวกแม้ว” “ หนูๆพูดไทยได้หรือเปล่า” ฉันอยากรู้ว่า พวกที่ได้ชื่อว่าอยู่ในสังคมศิวิไลซ์ สังคมที่มีความเจริญทางด้านวัตถุ และเจริญทางด้านเทคโนโลยี แต่ จิตใจของพวกเขาทำไมไม่เจริญงอกงามเหมือนกับสิ่งเหล่านั้น แม้บางคนอาจพูดด้วยความสนุก หรือด้วยความไม่รู้แต่คนเหล่านั้น น่าจะเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันคนเราอาจต่างกันแค่เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์และภาษาแต่ทุกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน ฉันคิดว่าเด็กๆอาจจะไม่รู้สึกอะไรมากนักแต่สำหรับฉันแล้วมันเป็นเหมือนไม่ให้เกียรติกัน
พวกเราได้ไปขอบคุณ สื่อต่างๆทั้งสื่อหนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์เพื่อออกรายการเป็นการเปิด โอกาสให้เด็กได้ระบายความรู้ที่อยู่ในใจของพวกเขา ว่าพวกเขาต้องลำบากแค่ไหนที่ต้องเป็นคนไร้สัญชาติทั้งๆที่พวกเขาเป็นคนไทย มีความรักชาติ รักแผ่นดิน รักในหลวง แต่พวกเขาไม่มีสิทธิที่จะเป็นคนไทย เวทีนี้ได้เปิดโอกาสให้พวกเขาได้พูดความในใจที่ฉันเชื่อ ว่าเด็กไร้สัญชาติทุกคนมีเหมือนกันคือความยากลำบากในการดำรงชีวิตอยู่ใน สังคม โดยพวกเขาไม่มีสิทธิเท่าเทียมกับคนอื่น และขอบคุณสื่อที่เป็นกระบอกเสียงให้แก่เด็กๆขอบคุณที่เปิดโอกาสให้เด็กได้มี โอกาสพูดในสิ่งที่พวกเขาอยากจะพูดให้คนทั้งโลกฟังว่าพวกเขามีความทุกข์แค่ ไหนที่อยู่อย่างคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ทั้งๆที่เป็นคนไทยแต่ถูกกฎหมายตราหน้าว่าไม่ใช่คนไทย น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มและดีใจของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไหลอาบแก้มเพราะเธอได้ พูดในสิ่งที่เธอและเพื่อนๆเก็บไว้ในส่วนลึกของหัวใจดวงน้อยๆ เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้เกี่ยวกับความรู้สึกที่ปราศจากการ แสแสร้ง ปราศจากความรู้สึกที่อยากให้คนอื่นสงสาร แต่ เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจของพวกเขาจริงๆ
ฉันได้มีโอกาสคุยกับเด็กมอแกนคนหนึ่งซึ่งแกโตพอที่จะรับรู้ปัญหาของตนเอง มากกว่าน้องๆที่มาพร้อมกัน เขาเล่าว่าเขาเคยไปดำปลิงทะเลที่สิงคโปร์เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว ทั้งๆที่เขาอายุแค่ 13 ปี วัยของเขาเป็นวัยเรียนแต่เขาต้องเลือกที่จะทำงาน เขาบอกว่าเขาไม่อยากดำปลิงเขาอยากทำงานอย่างอื่นแต่เขาไม่มีสิทธิที่จะทำ งานอย่างอื่นเพียงเพราะว่า เขาไม่มีสัญชาติไทย และ เขายังบอกว่าอนาคตอยากเป็นทหารเพื่อปกป้องบ้านเมือง แต่ปลายทางของเขาช่างริบหรี่เหลือเกิน ฉันได้แต่ หวังว่าคง มีใครสักคนที่เป็นผู้ส่องทางพร้อมจับมือเขาไปตามหาความฝันของเขา…… ฉันไม่อยากจะถามอะไรมากกว่านี่เพราะฉันอาจจะกลั้นน้ำตา ไม่อยู่เพียงแค่นี้ฉันรับรู้แล้วว่าเขาอมความทุกข์ไว้แค่ไหนถ้าเทียบกับเด็ก ทั่วไป ฉันอดที่จะคิดไม่ได้ว่านี่เป็นวิบากกรรมของพวกเขาหรือเป็นเพราะกฎหมายที่ ยื่นสถานภาพคนไร้รัฐให้แก่พวกเขา ฉันยังจิตนาการภาพไม่ออกเลยว่าเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นโดยที่ยังไม่ได้รับ สัญชาติไทยพวกเขาจะเป็นอย่างไร พวกเขาจะประกอบอาชีพอะไร ฉันได้แต่ภาวนาให้พวกเขาได้รับสัญชาติก่อนที่เขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เพราะพวกเขาจะได้เรียนเหมือนกับเด็กไทยทั่วไปและมีอาชีพที่ไม่ต้องเสี่ยง ชีวิตอย่างที่เป็นอยู่
เด็กๆยังมีโอกาสไปเที่ยวที่ Ocean world และ Dream world เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้แก่พวกเขา ดูเหมือนเขาจะตื่นเต้น และสนุกสนานกันมาก และตื่นตากับเครื่องเล่นต่างๆ ฉันเห็นแววตาของแต่ละคนที่แสดงออกถึงความสุข ความสนุกแล้วอดที่จะดีใจกับพวกเขาไม่ได้ แต่ฉันอดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า ถ้าพวกเขามีสัญชาติไทยแล้วพวกเขาคงมีความสุขมากกว่านี้ การไปเที่ยวครั้งนี้อาจเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายสำหรับบางคนก็ได้ตราบใด ที่ยังไม่ได้สัญชาติไทย
…สัญชาติไทยใครมี นั้นดีนัก แผ่นดินพ่อให้รักและหวงแหน
แม้ไร้รัฐ ไร้ชาติ จักขาดแคลน เพราะดินแดนเพียงฝ่ามือก็คือไทย
อาจเป็นชนกลุ่มน้อยดู ด้อยค่า แต่ อยากให้รู้ว่าอย่าผลักไส
แม้ ไร้สิทธิแต่ไม่ไร้น้ำใจ พรอนันต์อันใดดีแด่ท่าน เอย…
….สาย ใยแห่งชีวิตมิขาดสะบั้น
ก่อกุมเรียงร้อยกัน ให้มั่นไว้
เป็นรัก เด็กไร้รัฐแห่งชาติไทย
ถูกทอด ทิ้งเดียวดายในคืนวัน..
Sun, 04/07/2013
Copyright © 2018. All rights reserved.