งานวันเด็ก ของเด็กไร้สัญชาติ

เด็กหลาย ๆคน คงตั้งหน้าตั้งตารอที่ จะได้รับของขวัญแห่งปี เนื่องในโอกาสงานวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งในหลายพื้นที่ หรือในหลายหน่วยงานได้ร่วมกันจัดขึ้น ในวันที่ 14 มกราคม 49 ที่จะมาถึง ถ้าจะพูดถึงในหลายปีที่ผ่านมา ของขวัญหรือสิ่งของที่แจกให้กับเด็กก็คงจะสร้างความประทับใจ และความรู้สึกที่ดีให้กับเหล่าเด็กๆไปตามภาษาหรือช่วงวัยที่ต้องการความสุข ได้เป็นอย่างดี หรือในบางครอบครัวก็พาลูก ๆหลานของตนไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆที่จัดงานขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นวาระแห่งการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว เข้าทางนโยบายรัฐบาลอย่างพอเหมาะพอเจาะในเรื่องของการส่งเสริมสถาบันครอบ ครัวที่รัฐเริ่มเร่งเครื่องให้ความสำคัญ จนถึงการเร่งคลอดโครงการหรือกิจกรรมที่จะเข้ามาส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง
เมื่อใน ระหว่างวันที่ 6-8 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดงาน “วันเด็ก ไร้สัญชาติ” ขึ้น ณ ศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน ต. สบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งถือเป็นการจัดงานขึ้นเป็นครั้งที่ 4 เพื่อ เปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน กลุ่มคนตามแนวชายแดน และชุมชนไร้สัญชาติ ได้ร่วมสัมผัสงานวันเด็ก โดยได้รับเกียรติจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนมากล่าวเปิดงาน รวมถึงมีทั้งองค์กรภาครัฐ และองค์กรพัฒนาเอกชนเข้าร่วม
ภายในงาน ได้มีการหยิบยกประเด็น คนไร้สัญชาติ เป็นเนื้อหามาเป็นการกล่าวถึง โดยมีกิจกรรมการลงพื้นที่ เยี่ยมชุมชน ที่ประสบปัญหากับการเป็นบุคคลไร้สัญชาติ งานแสดงวัฒนธรรมของเด็กไร้สัญชาติ การอ่านจดหมายถึงนายกฯ วงเสวนาวิชาการ ประเด็นปัญหาคนไร้สัญชาติ ศูนย์ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายคนไร้สัญชาติ และการจัดนิทรรศการขององค์กรพัฒนาเอกชนที่เข้าร่วม โดยมีคนเข้าร่วมงานกว่า 500 คน ส่วนในการเยี่ยมลงพื้นที่ประกอบไปด้วยใน 3 พื้นที่ ด้วยกัน โดยมีหมู่บ้านท่าเรือ หมู่บ้านแม่ดี๊ และหมู่บ้านแม่เหว่ยโพคี โดยในแต่ละพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบุคคลไร้สัญชาติเกือบแทบทั้งสิ้น ชาวบ้านส่วนใหญ่ จะมีบัตรประจำตัวของบุคคลบนพื้นที่ราบสูง อาทิ บัตรสีฟ้า บัตรสีเขียวขอบแดง เป็นต้น แต่ก็ได้มีการยื่นเรื่องขอการเป็นสัญชาติไทยไว้แล้ว แต่อยู่ในสภาพที่ต้องทนรอการอนุมัติ
ณ วันนี้ชุมชนทั้ง 3 พื้นที่ ยังต้องประสบกับปัญหาไม่ว่าจะเป็นในเรื่อง ของการขาดโอกาสทางการศึกษา เรื่องรักษาพยาบาล การเดินทาง รวมถึงไปการถูกละเมิดสิทธิในด้านต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งส่งผลทำให้เกิดปัญหาคาบเกี่ยวไปในอีกหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้ามนุษย์ การถูกหลอกลวงไปประกอบอาชีพที่ทุจริตผิดกฎหมาย และปัญหาอื่น ๆอีกมากมายที่ส่อเค้าตั้งรออยู่
จากการบอก เล่าของน้องมึดาหญิงสาวหัวใจแกร่งจากบ้านท่าเรือเธอเปิดใจเล่าให้ฟังว่า “หลายต่อ หลายครั้งแล้วที่พยายามติดต่อกับทางอำเภอ และพยายามที่จะเป็นล่ามให้กับชาวบ้าน แต่หนูกับได้รับคำตอบจากทางเจ้าหน้าที่ว่า หนูนั่นแหละตัวปัญหาเป็นเด็กเป็นเล็กจะไปไหนก็ไป จนหนูไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็ต้องกลับไป สำหรับกับคนอื่นแล้วอาจจะดูไม่มี ค่าเท่าไหร่แต่สำหรับหนูกับชาวบ้านแล้วมันเหมือนการจุดประกายให้กับชีวิต” ณ วันนี้ น้องมึดาเองก็ยังไม่ได้รับการได้สัญชาติไทย อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการรอการอนุมัติอยู่ เธอเล่า ให้ฟังต่อว่า “เวลาชาวบ้านเจ็บไข้ได้ป่วยต้องนำส่งโรงพยาบาล
พอมาถึงด่านก็ยังต้องมามีปัญหาที่ด่านอีก ทั้ง ๆที่ชาวบ้านก็ป่วยไม่มีแรงแล้ว ก็ยังจะหาว่าชาวบ้านนั้นจะหลบหนีอีก” เธอพูดอย่างตัดพ้อ ชาวบ้านส่วนใหญ่ ณ วันนี้ไม่กล้าที่จะไปโรงพยาบาลกันเพราะกลัวมีปัญหากับทางเจ้าหน้าที่ จึงทำให้ต้องดิ้นรนหาหยูกหายามารักษากันเอง แต่ที่หนักไปกว่านั้นก็คือ พ่อของเธอเองที่ต้องเข้ารับรักษาการผ่าตัด ด้วยการที่พ่อของมึดาเป็นคนไร้สัญชาติเช่นเดียวกัน จึงทำให้ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ( บัตร 30 บาท) จึงต้องขายบ้านของตัวเองในราคา 15,000 บาท เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล แต่ก็ไม่พอ จึงทำให้เธอต้องทุกข์ใจ และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อให้พ่อของเธอได้รับการรักษา
จากปัญหา ดังกล่าวจึงเป็นประเด็นที่ต้องมีการแลกเปลี่ยนและถกเถียง เพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ปัญหา อย่างเป็นรูปธรรม เพราะจากที่มีการเก็บข้อมูลพื้นฐานในกรณีดังกล่าว ยังมีกลุ่มบุคคลที่ตกอยู่ในสภาพ กลุ่มคนผู้ไร้สัญชาติอีกเป็นจำนวนมาก รัฐบาลไทย หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ควรที่จะให้ความสำคัญและตระหนัก กับปัญหา ร่วมหาแนวทางการแก้ไข เพื่อให้กลุ่ม บุคคลเหล่านี้ ได้มีสถานะภาพ และมีสิทธิที่พึงจะได้รับเสมือน พลเมืองคนหนึ่ง
ในโลกใบ เดียวกันในอีกมุมมุมหนึ่ง กลุ่มเด็กไร้สัญชาติกับต้องใช้วันเวลาแห่งความสุขของพวกเขาที่พึงจะต้องได้ รับ มาเป็นการขอร้องจากผู้ใหญ่ใจดี เพื่อการให้ได้มาซึ่งสิทธิทางสถานะภาพทางบุคคล มาเป็นของขวัญแห่งชีวิตที่พวกเขาถือเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างที่จะหาสิ่งอื่น มาเทียบค่ามิได้ ในวันเด็กแห่งชาติปีนี้ เด็กหลายคนอาจมีความสุขกันอย่างทั่วหน้าที่จะได้รับของขวัญกันอย่างน่าชื่น ตาบาน แต่สำหรับพวกเขาเด็กไร้สัญชาติยังคงรอของขวัญแห่งชีวิตกันต่อไป และคงเฝ้ารอที่จะได้มีโอกาสเข้าร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ เหมือนเด็กคนอื่น ๆ เช่นกัน
Copyright © 2018. All rights reserved.