เคยสงสัยมั๊ยว่า ความเป็นไทย หรือ คนไทย มันดูกันที่ตรงไหน ?กิน อาหารไทย ?พูดภาษาไทย ?อยู่เมืองไทย ?หรือ ต้องร้องเพลงชาติไทยได้ ถึงจะเป็นคนไทย ?มันน่าสะอิดสะเอียนที่ต้องไปเจอคนที่ผูกขาดความเป็นคนไทยแท้ โดยที่คนเหล่านี้ชี้ว่า คนที่มีเชื้อสายผสมไม่ว่าจะจีน เวียดนาม พม่า ลาว เขมร แขก หรือ ฝรั่งที่ไหน ว่าคนเหล่านี้ มิใช่คนไทยแท้ ตั้งแต่เกิดมา ผมยังไม่เคยเจอคนไทยที่บอกได้ว่า ตัวเองมีโครตเหง้ามาจากชาวบ้านบางระจันสักคน หรือ บอกได้ว่า บรรพบุรุษของตนเองมีชีวิตอยู่ในยุคสุโขทัย หรือ อยุธยาประวัติศาสตร์ชาติไทย ถูกสอนกันมาเหมือนว่า คนไทยมีรากเหง้ามาจากชาติพันธ์เพียงแค่ไม่กี่ชาติพันธ์ ไม่รู้ว่าจะโทษหลักสูตรการศึกษาดี หรือ ความโง่เขลาของตนเองดี แต่นับวันผมยิ่งขยาดแขยงแบบเรียนที่ตอนเด็ก ๆ เล่าเรียนมา เพราะมันไม่ได้สอนความจริง เพียงแต่เป็นสื่อโฆษณาเพื่อการสร้างชาติของยุคสมัย ที่ต้องการสร้างสำนึกร่วมกันของคนในชาติ เพื่อต่อต้านลัทธิทางการเมืองบางอย่างที่ผู้นำประเทศไม่ต้องการ และ ขลาดกลัว
ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องยุทธนา นักเรียน ม.6 ที่ Ent ติดคณะแพทย์ศาสตร์ แต่ถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติความเป็นคนไทย เพราะมีเชื้อสายเวียดนาม ห้าปีมานี้ ผมคุ้นเคยกับเด็ก ๆ ที่มีปัญหาเรื่องสัญชาติ และ ผมพบว่า บนใบหน้าของเด็กเหล่านี้ มีคำว่า “อยุติธรรม” สักอยู่บนใบหน้าของพวกเขา ผมไม่ได้รังเกียจกฎระเบียบของมหาวิทยาลัย ที่ต้องระบุว่า คนที่จะเรียนคณะเหล่านี้จะต้องมีสัญชาติไทย หรือ มีคุณสมบัติอย่างไร แต่ผมทนน้ำเสียงที่แฝงเร้นถึงความเหยียดหยามในความที่ไม่เป็นคนไทยไม่ค่อย ได้ มันเหมือนว่า เด็กพวกนี้ไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่มีสัญชาติไทยยังสะเออะมาเรียนคณะแพทย์ หรือ บางน้ำเสียงก็ออกไปในแนวปกป้องผลประโยชน์ของเด็กไทยพันธุ์แท้
น้องยุทธนา ผ่ามวัน กับบัตรประจำตัวญวนอพยพ ที่ตีตราเขาเป็นคนเวียดนามทั้ง ๆ ที่ตนเอง และ พ่อแม่ของเขาไม่เคยเหยียบย่างไปที่ผืนแผ่นดินใด ที่ไม่ใช่ประเทศไทย
ยุทธนาเป็นเด็กที่เกิดในประเทศไทย เช่นเดียวกับ พ่อแม่ของยุทธนาที่เกิดบนผื่นแผ่นดินไทย จะมีคนไทยกี่คนที่รู้ว่า วันที่พ่อแม่ของยุทธนาเกิดในประเทศไทย เขาทั้งสองได้รับสิทธิตามกฏหมายให้เป็นคนไทยตามหลักดินแดน จนต่อมา มีประกาศคณะปฏิวัติที่ 337 ในปี 2515 พ่อและแม่ของยุทธนาถูกถอนสัญชาติ เพราะว่าเป็นลูกหลานของคนเวียดนาม
คนไทยกี่คนรู้เรื่อง หรือ ใส่ใจกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในปี 2515 ที่มีคนไทยถูกถอนสัญชาติจำนวนนับไม่ถ้วนมันก็มีแต่ไอ้พวกที่เรียน หนังสือมาเหมือนกับผมนี่แหละ ที่คิดว่า โคตรเหง้าของไทย ต้องมาจากกรุงศรีอยุธยาทั้งนั้นก็ได้ด้วยการรับรู้อันต่ำต้อยเช่นนี้ จึงทำให้เราไม่เข้าใจความหลากหลายทางชาติพันธุ์ของไทย เราจึงได้สั่งสมปัญหาภาคใต้จนเกิดเป็นชนวนระเบิดขึ้นมา เพราะเราไม่เข้าใจว่า สังคมไทย หรือ สังคมมนุษย์ มันมีการผสมผสาน และ มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์
วกกลับมาที่ประเด็นของ นักเรียนแพทย์คนนี้ ก็กลายมาเป็นขี้ปากให้กับพวกผูกขาดการเป็นคนไทยได้ทิ่มแทงว่าเป็นลูกแก้ว ลูกญวน พ่อแม่เป็นพวกทำผิดกฎหมาย เป็นคนหลบหนีเข้าเมือง…… ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่ของเด็ก เป็นคนไทย ที่ถูกละเมิดด้วยคำสั่งสมัยเผด็จการทหาร เป็นบุคคลที่ควรได้รับการเยียวยา และสังคมไทยต้องชดเชยต่อการกระทำผิดและ ความเสียหายของพวกเขา แต่นี่เรากลับมองว่า นี่เป็นความเมตตาที่เราจะหยิบกระดูกโยนให้กิน หรือ ไม่ก็ได้ แล้วแต่อารมณ์
อ.เสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้กล่าวต่อหน้าเด็กไร้สัญชาติครั้งหนึ่งว่า “สิทธิ ของเด็กเหล่านี้ ไม่ใช่ต้องร้องขอ หรือ ไปอ้อนวอนให้รัฐกรุณา แต่สิทธิเป็นสิ่งที่พวกเขามีอยุ่ และ ต้องได้รับโดยชอบ ไม่ต้องร้องขอ คนที่ละเมิดสิทธิเหล่านี้ต้องรู้ตัวว่า เราได้กระทำผิดอย่างมหันต์ และ ต้องเร่งรีบคืนสิทธิเหล่านี้กลับคืนไปโดยเร็ว”
อย่าว่าแต่ใครเลย….คุณทักษิณ ก็มีเชื้อสายมาทางจีน พระเจ้าตากก็เชื้อสายจีน ใช้แซ่ ด้วยซ้ำไปเลิกผูกขาดความรักชาติ หรือ ความเป็นคนไทยแบบปัญญาอ่อนได้แล้ว รำคาญจริง ๆ
โดย บก.ลายจุด
17 พค.2547 ณ เชียงราย
