นายกมล สุขสมบูรณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมเรื่องปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ( The People’s Movement for a Just Society :Pmove) แทนหม่อมหลวงปนัดดา พิกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ โดยมีตัวแทนพีมูฟจากภาคต่างๆ เข้าร่วม อาทิ ตัวแทนสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน) เครือข่ายชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากแผนแม่บททวงคืนผื่นป่า และเครือข่ายกะเหรี่ยง ประมาณ 15 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระกว่างการประชุม ตัวแทนได้ยื่นหนังสือต่อนายกมล ในประเด็นเร่งด่วน 5 กรณี ได้แก่ 1 ขอให้ คุ้มครองสิทธิของสมาชิกชุมชนเพิ่มทรัพย์ และประสานงานการแก้ไขปัญหาของสมาชิกสกต. โดยด่วน โดยเฉพาะกรณีเงินเยียวยาจากกองทุนยุติธรรม ที่ต้องมอบให้ ครอบครัวนายใช่ บุญทองเหล็ก ที่ถูกคนยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และเร่งรัดกระบวนการสืบสวนสอบสวนกรณีสมาชิกสกต.ได้ถูกฆาตกรรมทั้งหมด 4 ราย โดยอาจประสานงานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาดูแลคดีความ
2. ขอให้ประธาน คือ หม่อมหลวงปนัดดา หรือตัวแทนประสานงานถึงนากยกรัฐมนตรีให้มีคำสั่ง อนุญาตและคุ้มครองการเข้าทำประโยชน์ดูแลทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างของสมาชิกชุมชนเพิ่มทรัพย์ในพื้นที่จำนวนประมาณ 380 ไร่ (ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่หมดสัญญาเช่ามาแล้ว 14 ปี โดยขณะนี้ชาวบ้านไม่มีสิทธิ์เข้าไปใช้ประโยชน์ เพราะนายทุนในนามบริษัทไทยบุญครอง จำกัด ไม่ยอมส่งมอบพื้นที่คืนให้กรมป่าไม้ 3 .กรณีมีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงนำโดยร้อยโทฐิติกานต์ เวชสิทธิ์ สังกัดค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานีและเจ้าหน้าที่อีกหลายนายได้ออกคำสั่งเชิญนาย เพียรรัตน์ บุญฤทธิ์ ประธาน สกต. เพื่อปรับทัศนคติ 3 และออกคำสั่งห้ามชาวบ้านที่ชุมชนเพิ่มทรัพย์ หมู่ 1 ตำบลไทรทอง อำชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ให้อาศัยในชุมชน รวมไปถึงปิดล้อมทางเข้า-ออก ห้ามไม่ให้ใครก็ตามเข้าไปในชุมชนได้ อีกทั้งห้ามชาวบ้านถ่ายรูป พร้อมขู่ว่าจะสั่งสอบสวนนั้น อยากให้สำนักนายกฯ เร่งรัดชี้แจงให้เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวรับทราบและเข้าใจหลักการแก้ไขปัญหาร่วมกัน พร้อมทั้งทำรายงานถึงจังหวัดกรณีการประชุมแก้ไขปัญหาของพีมูฟแต่ละครั้งด้วย โดยครั้งต่อไปควรเชิญตัวเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวมาร่วมรับฟังการแก้ปัญหาด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและไม่ละเมิดสิทธิชาวบ้าน
4. ให้สำนักนายกฯ ออกคำสั่งชะลอหรือยุติการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร กรณีที่มีทหารหลายรายเข้ากดดันชาวบ้านโคกหนองสิม อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด 42 ครอบครัวออกจากพื้นที่เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ รวมทั้งออกคำสั่งแบบเดียวกันเพื่อระงับการไล่รื้อชุมชนโคกยาว ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิที่ถูกไล่รื้อเช่นกัน 5.นางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้สำนักนายกฯ ได้เร่งรัดกระบวนการสืบสวน สอบสวนคดีที่บิลลี่หายตัวไปในวาระครบรอบ 10 เดือน 6 เครือข่ายกะเหรี่ยงภาคเหนือยื่นหนังสือขอให้สำนักนายกฯ เร่งรัดการแก้ไขปัญหาของชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่กำลังประสบปัญหาถูกคุกคามวิถีชีวิตกับป่า
ทั้งนี้นายกมล กล่าวภายหลังการรับหนังสือแต่ละเครือข่ายว่า ตนจะเร่งรัดประสานงานให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับทราบและจะรายงานสถานการณ์ให้หม่อมหลวงปนัดดารับทราบ โดยกรณีการเสียชีวิตของพี่น้องสกต.นั้น จะพิจารณาแนวทางในการประสานงานกับดีเอสไอเพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องคดีความ ส่วนกรณีการไล่รื้อนั้นจะเร่งส่งหนังสือถึงจังหวัดโดยเร็ว
นายสุรพล สงฆ์รักษ์ สมาชิก สกต. กล่าวว่า ปัญหาที่คนจนทุกคนพบเจอไม่ใช่แค่เรื่องปากท้อง และการถูกละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่คนจนกำลังเจอกับภัยความมั่นคงทางชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาล และการสื่อสารที่ไม่ลงตัว ขณะนี้ พีมูฟกับรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหากันอยู่ แต่เรื่องความเดือดร้อนในหลายพื้นที่กลับเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น บางคนตายจากโดยไม่มีใครเข้ามารับผิดชอบ บางคนต้องระแวดระวังกับสถานการณ์และเกรงกลัวอิทธิพลมืด จึงเกิดคำถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่เจ้าหน้าที่จะคุ้มครองประชาชนอย่างเป็นธรรมและแก้ไขปัญหาแบบละมุนละม่อม ซึ่งในฐานะรัฐบาล ควรเข้าใจสถานการณ์และยอมรับหลักการที่เป็นเหตุผล ให้สามารถแก้ปัญหาอย่างนั่งยืนได้ ไม่อย่างนั้นสถานการณ์ร้อนก็จะไม่จบสิ้น
ขณะที่นางพิณนภา กล่าวว่า การเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ของกะเหรี่ยงแก่งกระจานวันนี้ ที่ได้มารวมตัวกับคนภาคเหนือนอกจากกรณีสามีหายตัวไปแล้ว ตนมีสารจากคนแก่คนหนึ่ง คือ ปู่คออี้ ขอร้องว่า ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาชีวิตกะเหรี่ยงกับป่าอย่างจริงจัง และขอในช่วงสุดท้ายของชีวิตได้อยู่บ้านเกิดที่ได้เห็นมานาน เพราะตอนนี้กะเหรี่ยงแก่งกระจานกำลังลำบากมาก
Thu, 02/19/2015