มท. สนองงานตามพระราชดำริ เน้นพัฒนา-ดูแล “ผู้ด้อยโอกาส”

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการ “ตามรอยเท้าพ่อ” เพื่อปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเน้นหนักการเทิดทูนสถาบันหลักของชาติและขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย โดยหน่วยงานกรม/รัฐวิสาหกิจในสังกัดและจังหวัดทุกจังหวัดได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ตามวาระ “ตามรอยเท้าพ่อ” มาอย่างต่อเนื่อง และภารกิจสำคัญประการหนึ่งที่กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินงานเพื่อสนองพระราชดําริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ได้ทรงมีความห่วงใยต่อผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์พระบรมวงศานุวงศ์ผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสหรือผู้ป่วยที่มีรายได้น้อยและมีความทุกข์ยากลำบากในการดำรงชีวิต และการแก้ไขปัญหาสัญชาติให้กับนักเรียนที่ไม่มีสถานะบุคคล

เพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ทรงมีความห่วงใยต่อพสกนิกรชาวไทย ในทุกๆ ด้าน กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง จึงได้ดําเนินโครงการสำคัญเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน พัฒนาอาชีพ และดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สรุปผลการดําเนินงานในห้วงเดือน ม.ค. – ส.ค.58 ดังนี้

1.โครงการกําหนดสถานะให้แก่บุคคลไร้สัญชาติประจําปี 2558 ได้กำหนดสถานะบุคคลและลงรายการสัญชาติไทยให้แก่กลุ่มเด็กที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในพื้นที่ภูเขาสูง ห่างไกลและทุรกันดาร โดยจัดส่งคณะเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครองไปปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดเป้าหมาย เพื่อตรวจเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด โดยดำเนินการนำร่องในพื้นที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก และขยายผลในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจากการดำเนินงานดังกล่าว ขณะนี้ได้มีการอนุมัติเพิ่มชื่อและลงรายการสัญชาติไทยให้แก่ผู้ไม่มีสถานะบุคคลแล้วจำนวน 579 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กนักเรียนในพื้นที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก จำนวน 110 ราย

อย่างไรก็ดี กรมการปกครองมีเป้าหมายตรวจสอบคุณสมบัติของนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มบุคคลทั่วไปที่ยังไม่มีสัญชาติไทยจากทั่วประเทศ จำนวน 68,526 ราย ได้ตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว จำนวน 19,528 ราย พบว่ามีผู้ที่มีคุณสมบัติได้สัญชาติไทย จำนวน 7,723 ราย โดยสำนักทะเบียนทั่วประเทศจะเร่งดำเนินการรับคำร้องขอกำหนดสถานะและขอสัญชาติไทยให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่มีคุณสมบัติต่อไป ซึ่งขณะนี้มีผู้มายื่นคำร้องแล้ว จำนวน 3,223 ราย

2.โครงการช่วยเหลือผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์พระบรมวงศานุวงศ์และผู้ป่วยที่ด้อยโอกาส โดยกระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการภูมิภาค ทำหน้าที่ประสานและบูรณาการกับส่วนราชการต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือและดูแลประชาชนเหล่านี้ตามความเหมาะสม เช่น การช่วยเหลือผู้ป่วยและหรือญาติผู้ป่วย กรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้จำเป็นจะต้องให้ญาติ เป็นผู้ดูแล โดยให้ความช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ารับการรักษาพยาบาล เช่น ค่าพาหนะ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ระหว่าง เข้ารับการรักษาพยาบาล หรือช่วยเหลือในการดำรงชีพด้านอื่นๆ ตามความเหมาะสม

และได้จัดตั้งศูนย์สงเคราะห์ราษฎรระดับจังหวัด อำเภอ และระดับหมู่บ้าน ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการหมู่บ้านเป็นกรรมการศูนย์ฯ ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่บ้าน มีการจัดตั้งแล้วใน 39 จังหวัด รวม 5,440 แห่ง รวมทั้งการช่วยเหลือผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอ ปัจจุบันได้ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย รวม 4,345 ราย แยกเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์พระบรมวงศานุวงศ์จํานวน 1,565 ราย และผู้ป่วยที่เป็นผู้ด้อยโอกาส จํานวน 2,780 ราย

3.โครงการพัฒนาตามพระราชดําริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยสนับสนุนและขยายผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ มีประชาชนได้รับประโยชน์จากทุกโครงการรวม 60,252 คนดังนี้ 1) โครงการพัฒนาพื้นที่ ภายใต้แผนภูฟ้าพัฒนาตามพระราชดำริ จังหวัดน่าน ประชาชนได้รับประโยชน์รวม6,253 คน 2) โครงการสร้างป่าสร้างรายได้ดำเนินการในพื้นที่ทรงงานศูนย์เรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” และพื้นที่อําเภอนาแห้ว จังหวัดเลย โดยจัดทําธนาคารพันธุ์พืชและปุ๋ยอินทรีย์ประชาชนได้รับ ประโยชน์จากโครงการรวม 2,992 คน พื้นที่รวม 10,087 ไร่

3) โครงการเศรษฐกิจพอเพียงดําเนินการในพื้นที่ 20 จังหวัด 42 อําเภอ 42 หมู่บ้าน (ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการรวม 29,549 คน 4) โครงการพัฒนาพื้นที่เฉพาะ บ้านป่าเกี๊ยะ อําเภอสะเมิง บ้านดอยป่าคา อําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่และบ้านห้วยป๋อ อําเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เพื่อแก้ไขปัญหาตามพื้นที่ชุมชนที่สูงมีประชาชนได้รับประโยชน์รวม 1,746 คน และ 5) การสนับสนุนโครงการพัฒนาตามพระราชดําริ (เพิ่มเติม) และการขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริอื่นๆ ดําเนินการในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น สกลนคร มุกดาหาร หนองบัวลําภู สุรินทร์เชียงใหม่ ตาก เชียงราย และจังหวัดลําปาง ประชาชนได้รับประโยชน์รวม 19,712 คน

ทั้งนี้ รมว.มหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับสนองงานสถาบันพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ทรงเป็นแบบอย่างในการทุ่มเทเสียสละพระวรกายดำเนินทุกวิถีทางที่จะช่วยให้ประชาชนชาวไทยพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงด้วยพระเมตตา โดยขอน้อมนำหลักการทรงงานและดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ที่มา : http://www.naewna.com/politic/176307

Copyright © 2018. All rights reserved.