คำกล่าวของ “น้องเนาะดา” ดอกไม้ในสวนขวัญแห่งอำเภอแม่ระมาด นำเสนอต่อ “ท่านเทียนฉาย ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ” – 30 เม.ย. 58

คำกล่าวของ“น้องเนาะดา” ดอกไม้ในสวนขวัญแห่งอำเภอแม่ระมาดนำเสนอต่อ “ท่านเทียนฉาย ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ” เพื่อส่งต่อความเห็นและข้อเสนอของร่างรัฐธรรมนูญไทยและการปฏิรูปประเทศไทยและนำการปฏิรูปประเทศเพื่อรับรอง/คุ้มครอง/พัฒนาสิทธิในสถานะบุคคลตามกฎหมายของเด็กและเยาวชนไร้รัฐไร้สัญชาติในประเทศไทย[1]

กล่าวในวันที่30 เมษายน 2558 ณ อาคารรัฐสภาเขตดุสิต กรุงเทพฯ

ภายใต้โครงการ4 หมอชายแดนตาก ร่วมกับองค์กร Save theChildren

กราบเรียนท่านประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติและสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติทุกท่าน “หนู นางสาวพรชนก ไม่มีนามสกุล หรือ น้องเนาะดา”ตัวแทนของเด็กและเยาวชนซึ่งประสบปัญหาความไร้รัฐไร้สัญชาติจากพื้นที่ชายแดนจังหวัดตากมีความปลื้มปิติและต้องขอขอบพระคุณคณะอนุกรรมการปฏิรูปด้านเด็กและเยาวชน/คณะอนุกรรมการปฏิรูปด้านสังคม/คณะอนุกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมาย/และคณะอนุกรรมการปฏิรูปด้านพหุสังคมวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญและตระหนักถึงความจำเป็นในการรับรองและคุ้มครองสิทธิของคนไร้รัฐไร้สัญชาติในรัฐธรรมนูญและนำการปฏิรูปประเทศเพื่อจัดการสิทธิในสถานะบุคคลตามกฎหมายให้เป็นสากลและสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ

เมื่อวานนี้ (29เมษายน 2558) ท่านอาจารย์มีชัยแนะนำให้น้องเนาะดาและเพื่อน ๆรวบรวมรายชื่อเด็กและเยาวชนที่ยังประสบปัญหาความไร้รัฐไร้สัญชาตินำเสนอต่อท่านประธานเทียนฉายน้องเนาะดา และเพื่อน ๆ ตลอดจนพี่ๆที่ทำงานเพื่อเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติในพื้นที่ชายแดนตากและเชียงรายจึงได้ระดมรวมรายชื่อเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติโดยในวันนี้ได้รายชื่อมาส่วนหนึ่งเป็นจำนวน1,012 คน ในจำนวนนี้มีเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติซึ่งประสบปัญหาความพิการถึง5 คน ในเด็กจำนวนพันกว่าคนนี้ส่วนใหญ่เป็น “คนต่างด้าวเทียม”คือ เป็นคนที่มีสิทธิในสัญชาติไทยแต่กระบวนการรับรองสิทธิในสัญชาติเป็นไปอย่างล่าช้า ดังเช่นตัวของน้องเนาะดาเอง ซึ่งเกิดในประเทศไทย บนดอยสามหมื่น อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตากตั้งแต่ปี 2533 และมีสิทธิในการรับรองสัญชาติไทยตามกฎหมายตั้งแต่ปี2551 แต่จนกระทั่งปัจจุบันเรื่องของน้องเนาะดาก็ยังไม่แล้วเสร็จเพราะประสบปัญหาความไม่รู้กฎหมายของเนาะดาและครอบครัว อคติที่มีต่อคนไร้รัฐไร้สัญชาติการพิจารณาคำร้องที่ล่าช้า ตลอดจนปัญหาทุจริตคอรัปชั่นในพื้นที่ชายแดนซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เนาะดาเชื่อว่าเกิดขึ้นกับเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติทุกคนในประเทศไทยและโรคไร้รัฐไร้สัญชาติที่ฝังติดอยู่ในตัวของพวกเรากลายเป็นสาเหตุของการถูกละเมิดสิทธิในสถานะบุคคลตามกฎหมายด้านอื่น ๆ อีกจำนวนมากจนคล้ายเป็นโรคเรื้อรังที่ดึงดูดความด้อยโอกาสในหลายลักษณะมาสู่น้องเนาะดาและครอบครัว

หากให้น้องเนาะดาเล่าปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติน้องเนาะดาเชื่อว่านั่งคุยกันทั้งวันก็คงเล่ากันได้ไม่หมดเพราะปัญหานี้มันเป็นทุกส่วนในชีวิตของพวกเราจริง ๆน้องเนาะดาขอเล่าบางเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจของพวกเราอย่างมาก 3เรื่อง กล่าวคือ

ประการแรก เรื่องสิทธิในนามอันชอบน้องเนาะดาและเพื่อนๆที่ไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวนไม่น้อยถูกปฏิเสธสิทธิในนามสกุลทั้งๆที่สิทธินี้รับรองตามกฎหมายแพ่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468แต่ตอนนี้พวกเราหลายคนต้องใช้ชื่อว่า “ไม่มีนามสกุล”ซึ่งเป็นปมด้อยกับพวกเราอย่างมาก ทุกครั้งที่ได้ยินคนขานชื่อ น้องเนาะดาและเพื่อนๆรู้สึกน้อยใจทุกครั้ง และสายตาที่มองมาด้วยคำถามว่า ทำไมไม่มีนามสกุลเป็นใครมาจากไหน ทำให้พวกเราแทบอยากจะวิ่งหนีไปร้องไห้เรื่องนี้น้องเนาะดาขอท่านผู้ใหญ่ใจดี ช่วยเห็นความสำคัญของปัญหานามสกุลของพวกเราและปฏิรูปกฎหมายให้เกิดการรับรองสิทธิในนามอันชอบของเราอย่างถูกต้องและยั่งยืน

ประการที่สอง เรื่องสิทธิในการเดินทาง น้องเนาะดาและเพื่อนๆทั้งประเทศถูกจำกัดสิทธิในการเดินทางและเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เราเสี่ยงต่อการถูกจับกุมและถูกรีดไถ และในวันนี้เองน้องเนาะดาก็ทราบว่ามีน้องชาย 2คน คือน้องสมปอง และน้องแดง ซึ่งเรียนอยู่ในอำเภอแม่อายจังหวัดเชียงใหม่ น้องมีพรสวรรค์ด้านวิทยาศาสตร์และได้รับคัดเลือกไปแข่งขันในเวทีนานาชาติที่มาเลเซียแต่ปรากฏว่ากระบวนการขอเดินทางออกนอกประเทศและกลับเข้ามามีขั้นตอนซับซ้อนและต้องใช้เวลาเนาะดาเป็นห่วงอย่างมากว่าน้องจะพลาดโอกาสไปแข่งขันเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยจึงขอผู้ใหญ่ใจดีช่วยให้ความช่วยเหลือน้องชายที่เป็นโรคไร้รัฐไร้สัญชาติทั้งสองด้วย

ประการที่สาม เรื่องสิทธิในการศึกษาน้องเนาะดา และเพื่อนๆจำนวนมากประสบปัญหาความยากจนแต่ด้วยความลำบากจึงต่อสู้ชีวิตจนเรียนดีแต่ปรากฏว่าไม่สามารถกู้ยืมเงินเรียนได้ เพราะกองทุน กยศ.ต้องเป็นเด็กที่มีสัญชาติไทยตามทะเบียนราษฎรเท่านั้น คนต่างด้าวเทียมอย่างเนาะดาและน้องๆอีก 3 คนที่มายืนตรงนี้ แม้จนและเรียนดีก็ถูกปฏิเสธสิทธิในการกู้ยืมเพื่อการศึกษาทำให้เพื่อนๆของเนาะดาหลายคนหมดหวังและท้อแท้กับความไม่เป็นธรรมในส่วนนี้และซ้ำร้ายไปกว่านั้นบางคนอย่างเนาะดาซึ่งต่อสู้จนเรียนจบชั้นปริญญาตรีด้านสัตวศาสตร์แต่กลับไม่สามารถทำงานตามวุฒิการศึกษาได้ เรื่องราวเหล่านี้เป็นปมในใจของเนาะดาและเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติในประเทศไทยทุกคนว่าทำไมเราซึ่งเกิดและอาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินนี้จึงถูกปฏิบัติแตกต่างและถูกละเมิดสิทธิซ้ำแล้วซ้ำเล่า

น้องเนาะดาขอความเห็นใจจากผู้ใหญ่ใจดีซึ่งเป็นความหวังของเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติทั่วประเทศขอท่านนำประเทศไปสู่การปฏิรูปที่รับรองและคุ้มครองสิทธิในสถานะบุคคลของคนไร้รัฐไร้สัญชาติและหากมีเรื่องใดที่ท่านสามารถเนรมิตให้เกิดความเป็นธรรมกับพวกเราได้ขอท่านอย่ารีรอ เพราะเราถูกมองข้ามและถูกละเมิดสิทธิมานานเหลือเกินและในท้ายที่สุดนี้ ขอท่านประธานเปิดโอกาสให้เราส่งต่อรายชื่อเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติเพื่อให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและส่งข้อเสนอในการปฏิรูปประเทศเพื่อเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติตลอดจนขอเชิญท่านลงพื้นที่เพื่อศึกษาเรื่องจริงที่จากพวกเราเจ้าของปัญหาขอบคุณค่ะ/-
——————————————————-
[1] ยกร่างประเด็นการนำเสนอโดย 4 ดอกไม้ในสวนขวัญแห่งแม่ระมาด– เด็กและเยาวชนไร้รัฐไร้สัญชาติในพื้นที่ชายแดนตาก คือ
(1) น้องเนาะดานางสาวพรชนก ไม่มีนามสกุล (2) น้องชิต นายพิชิต ไม่มีนามสกุล(3) น้องชิ นายหม่อซาชิ มั่นคง (4) น้องป๊อปปี้นายกฤษดา มั่นคง และพี่เลี้ยงสวนขวัญ (5) พี่ต่ายนางสาวปภาวดี สลักเพชร นักกฎหมายวิชาชีพ บางกอกคลินิกและผู้ช่วยสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร) เมื่อวันที่29 เมษายน 2558
และปรับปรุงเพื่อจัดทำคำกล่าวโดยพี่เลี้ยงใหญ่(6)พี่ปลาทอง นางสาวศิวนุช สร้อยทอง นักกฎหมายโครงการ 4 หมอชายแดนตาก

Copyright © 2018. All rights reserved.