คนไร้สัญชาติ ผู้ซึ่งไร้สิทธิ

หมี่จูเด็กผู้หญิงชาวอาข่า อายุ 20 ปี เล่าให้ทีมงาน The development of rights status for access to livelihoods ฟังถึงเหตุการณ์ที่ตนเองถูกตำรวจสายตรวจชุดจับกุม ของสภอ.แม่จัน จ.เชียงราย ควบคุมตัวในช่วงเช้าของ วันจันทร์ที่ 17 มิ.ย 56 เนื่องเพราะตนเองเป็นคนไร้สัญชาติ ยังไม่มีเลขประจำตัวประชาชน ไม่มีสิทธิในการเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ควบคุม  โดยก่อนหน้านี้ 2 วันที่ผ่านมา หมี่จูได้รับโทรศัพท์ติดต่อครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านใหม่พัฒนา ในเขตพื้นที่อ.แม่จัน ให้กลับบ้านมาเยี่ยมพ่อซึ่งกำลังป่วยอยู่ เธอไม่ชักช้ารีบบอกนายจ้างขอลาหยุดงานกลับบ้านมาเยี่ยมพ่อ โดยได้เดินทางมาจากที่ทำงานซึ่งเป็นโรงงานเล็กๆแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองเชียงราย
          โดยในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 17 มิ.ย. 56 ขณะที่ตนเองจะเดินทางกลับไปทำงานที่อำเภอเมืองเชียงราย ระหว่างทางรถยนต์ที่เธอโดยสารมาต้องแวะจอดข้างทาง เพราะชุดตำรวจในเครื่องแบบ 5-6 คนยืนโบกรถยนต์ที่เธอนั่งโดยสารมา ให้หยุดรถและขอตรวจเอกสารต่างๆของคนที่โดยสารมากับรถ ตำรวจท่านหนึ่งได้สอบถามหมี่จูว่า มีบัตรประชาชนไทยไหม หมี่จูยื่นเอกสารชุดหนึ่งให้ตำรวจตรวจสอบดู ตำรวจท่านนั้นบอกว่าเอกสารนี้หมดอายุแล้วใช้ไม่ได้ ชุดตำรวจดังกล่าวจึงควบคุมตัวหมี่จูซึ่งเป็นคนเดียวในรถยนต์ไว้
เธอถูกส่งตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรแม่จัน จังหวัดเชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย หมี่จูยังเล่าให้ทีมงานโครงการฟังว่า ขณะที่ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่โรงพัก หมี่จูรู้จักคุ้นหน้ากับตำรวจที่นี่หลายคน  รวมทั้งตำรวจสายตรวจที่จับกุมเธอ ตำรวจที่นี่ยังถามหมี่จูว่ามาทำอะไรที่นี่ เป็นอะไร ตอนที่ตำรวจจับหมี่จูเขาแกล้งทำเป็นไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จัก เพราะเมื่อ 2 ปีก่อนหน้าเธอเคยทำงานเป็นลูกจ้างในร้านขายอาหารหน้าสภอ.แม่จัน ตำรวจส่วนมากมากินอาหารที่นี่ และเธอเคยยกอาหารตามสั่งไปส่งให้ตำรวจในสถานีตำรวอยู่บ่อยๆ
หมี่จู หรือ น.ส หมี่จู แซกอถู่ อายุ 20 ปี ได้รับการสำรวจเพื่อจัดทำทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (แบบ 89/1) เมื่อปี พ.ศ 2550 พร้อบกับบุคคลในครอบครัว ปัจจุบันผ่านมากว่า 5 ปีแล้ว หมี่จูก็ยังมีเพียงใบตอบรับการสำรวจ หรือหางบัตร เป็นเอกสารชิ้นเดียวที่ทางราชการออกให้ โดยเธอได้เก็บเอกสารนี้ไว้กับตัวเองตลอด เพื่อเป็นหลักฐานแสดงกับเจ้าหน้าที่ของทางราชการ  หมี่จูเล่าให้ฟังว่าที่ผ่านมาเรื่องนี้เธอก็รู้ว่า หลายคนที่มีเอกสารลักษณะเดียวกับตนเอง ส่วนมากได้รับการถ่ายบัตรเลขศูนย์สีขาวๆ หรือบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนไปแล้ว แต่ทำไมหมี่จูยังไม่สามารถทำเหมือนคนอื่นๆได้ ทั้งๆที่พ่อแม่และพี่ที่เคยได้รับการสำรวจลงแบบ 89 พร้อมกัน ก็ยังได้ถ่ายบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบัตรเลข 0 ไปแล้ว
          หมี่จูถือเป็นเด็กผู้หญิงที่ดิ้นรนต่อสู้กับชีวิตเพื่อตนเองและครอบครัวมาตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องเพราะครอบครัวมีฐานะยากลำบาก หมี่จูเริ่มหาเลี้ยงตนเองและช่วยเหลือพ่อแม่ด้วยการทำงานตั้งแต่อายุ 13 ปี เคยรับจ้างปลูกข้าวในนา  เคยไปรับจ้างเลี้ยงเด็กให้กับชาวบ้าน  เคยไปเป็นลูกจ้างร้านขายข้าวขายอาหารหน้าสถานีตำรวจแม่จัน และเธอยังเคยไปรับจ้างเป็นแรงงานก่อสร้างในอำเภอแม่จัน ได้แค่แรงรายวัน 150-180 บาท แต่สุดท้ายก็ต้องออกจากงานนี้ไปเพราะร่างกายแบกรับไม่ไหว สุดท้ายเธอได้รับการแนะนำให้มาเป็นแรงงานรับจ้างในโรงงานเล็กๆแห่งหนึ่งที่อำเภอเมืองเชียงราย จึงเป็นเหตุให้ต้องเดินทางออกจากบ้านมาทำงานในต่างท้องที่
            กรณีของหมี่จู เป็นเพียงกรณีศึกษาหนึ่งที่ทำให้ทีมงานโครงการ The development of rights status for access to livelihoods รู้ถึงสถานะการณ์ของปัญหาในลักษณะเดียวกัน ที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด เพราะยังมีชาวบ้านอีกจำนวนมาก ที่ได้รับการสำรวจเพื่อจัดทำทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (แบบ 89) ตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล ตั้งแต่ปี 2548 แต่กลุ่มชาวบ้านเหล่านี้ยังไม่สามารถผ่านขั้นตอนและกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติระดับจังหวัด ทำให้กลุ่มคนไร้สัญชาติที่มีข้อเท็จจริงของปัญหาในลักษณะนี้ ถึงแม้นจะมีหลักฐานที่สามารถแสดงให้เห็นและเข้าใจได้ว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการสำรวจจากทางราชการแล้ว (ใบตอบรับการสำรวจ) ก็ยังมิสามารถที่ได้รับสิทธิ ใช้สิทธิในฐานะคนไร้สัญชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ กลุ่มชาวบ้านที่ประสบชะตากรรมเหล่านี้ ก็ไม่มีสิทธิที่จะยื่นขอใบอนุญาติทำงาน ไม่มีสิทธิขออนุญาติเดินทางออกนอกพื้นที่ ขาดสิทธิต่างๆอีกหลายด้านที่เป็นความจำเป็นพื้นฐานต่อการดำรงชีวิต ต้องมีชีวิตหลบๆซ่อนๆเป็นรายวันเรื่อยไป….
ทีมข่าว TOBETHAI
19 มิ.ย. 56
Fri, 06/07/2013
Copyright © 2018. All rights reserved.