ระดมชาติพันธุ์ 9เผ่า รณรงค์ขอคืนสิทธิคนไทย ผลกระทบจากสงครามครั้งที่ 1-2

นายสุริยาวุธ  สร้อยสวิง  ประธานสิทธิชุมชนพะเยา อ.เชียงคำ  จ.พะเยา  เปิดเผยเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ว่า  ได้ร่วมกับผู้นำชนเผ่าแต่ละเผ่า  และได้รวบรวมชาติพันธุ์ 9 ชนเผ่า  ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเช่น  จ.เชียงราย, น่าน, ลำปาง-พะเยา  และมีผู้เข้าร่วมกว่า  500  คน  และรวมกับเดินรณรงค์เรียกร้องขอสิทธิคืนสัญชาติไทย  เพราะบุคคลเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากการเกิดสงครามทั้งครั้งที่ 1-2 ที่ผ่านมา  ตามข้อมูลในการบันทึกคนเข้าเมือง, เข้าประเทศรวมไปถึงข้อมูลในใบเกิด   บรรพบุรุษหรือปู่, ย่า, ตา-ยาย   อาศัยอยู่ในพื้นที่พะเยากว่า 100 ปี  และกระจายอยู่ทั่วในพื้นที่ภาคเหนือ  และในพื้นที่พะเยาทุกอำเภอและมีมากใน 4  อำเภอนับ 1.500 คน  คือ  อ.ภูซาง  อ.เชียงคำ  อ.ปง  อ.เชียงม่วน  ความเป็นอยู่ของชาติพันธุ์ชนเผ่าคือไตลื้อ, ไตยอง, เย้า, ม่ง-อาข่า,ลั้ว,ลีซอ-ขมุ๊  ได้อาศัยร่วมกันกับชาวไทยพื้นราบ  ในลักษณะพ่อเป็นคนไทย, แม่เป็นต่างด้าว   และแม่เป็นคนไทย, พ่อเป็นต่างด้าว
นายสุริยาวุธกล่าวอีกว่า   เพื่อให้สอดคล้องกับ  พรบ. สัญชาติฉบับที่ 5  มาตรา 7 ทวิวรรค  ภ.3  ปี2555 และเป็น  พรบ.ไทยลื้อพลัดถิ่น  และชาติพันธุ์ชนเผ่า และในพื้นที่ภาคเหนือมีชนเผ่าอยู่ 9 เผ่า ที่กระขายอยู่ 17 จังหวัด  แล้วในพื้นที่พะเยา  แต่ละชนเผ่าได้ขึ้นทะเบียนต่างด้าวไว้กับทางการแต่ละอำเภอแล้วนับ  1.500 คน
ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นไปตาม  พรบ. สัญชาติหรือไทยลื้อพลัดถิ่นฯลฯ  ที่ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ  หลังมีการในหลวงได้ลงพระปรมาภิไธย  และตามกฎหมายฉบับนี้ได้มีไทยลื้อ-ชาติพันธุ์ 9  ชนเผ่า  จะเป็นผู้ได้สิทธิคืนสัญชาติตามกฎหมาย    เพราะได้รับผลกระทบหนีภัยสงครามโลกครั้งที่ 1-2
ซึ่งบุคคลดังที่กล่าวได้อพยพมาจาก  ประเทศเพื่อนบ้านคือ  แคว้นมณฑลยูนานประเทศจีน, เมืองเจียงตุงพม่า  และเวียงจันทรื,เมืองคอบประเทศลาว  และมีนายอำเภอที่ชนเผ่าที่อาศัยอยู่เข้าร่วมเช่นนายอำเภอภูซาง, ป., เชียงม่วน  และโดยมีนายภูมิชัย  ตะพานแก้ว นาอำเภอเชียงคำ เป็นประธานเปิดรณรงค์ฯ เป็นทางการ
Thu, 10/10/2013
Copyright © 2018. All rights reserved.